คาราเต้เป็นกีฬาจำพวกวิชาป้องกันตัวมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นและก็คำว่า “คาราเต้”
ที่ออกเสียงอย่างเดิมแต่ว่าเขียนแตกต่างนั้นก็เลยหมายคือ มือเปล่า ซึ่งในอดีตกาลการต่อสู้แบบคาราเต้เป็นการต่อสู้ที่ไม่ใช้อาวุธแม้กระนั้นสามารถใช้ทุกส่วนของร่างกาย ดังเช่นว่า มือ นิ้ว เท้า ศอก แต่ว่าเดี๋ยวนี้เมื่อถูกจัดเป็นกีฬาแล้วจึงมีการลดเหลือเพียงแค่ใช้มือกับเท้าแค่นั้น
ฐานรากก่อนจะมีการเริ่มเรียนคาราเต้
1. การเตรียมตัวร่างกายและก็จิตในก่อนที่จะมีการเริ่มฝึกฝนแม้ว่าคาราเต้จะเป็นการต่อสู้ด้วยมือไม่แม้กระนั้นก็มีความอันตรายเช่นกัน โดยเริ่มจากการเข้าฌาน ระบุลมหายใจเข้าออกลึกๆปลดปล่อยความนึกคิดให้ว่างเปล่า ลืมเรื่องร้อนใจทุกๆสิ่ง เป็นการเตรียมตัวจิตใจให้พร้อมที่จะรับสิ่งดีๆของใหม่ๆ
2. การวอร์มร่างกายเป็นการจัดเตรียมกล้ามให้เคยชินกับการเคลื่อนไหวในท่าคาราเต้ต่างๆโดยอาจจะเริ่มต้นจากการยืดเส้นยืดสายแบบเบาๆแล้วต่อด้วยการวิดพื้น หรือวิ่งรอบสนามแคบๆ
3. การเข้าในศาตร์วิชาของคาราเต้ ซึ่งคาราเต้นั้นดูๆแล้ว ก็เป็นวิชาป้องกันตัวประเภทหนึ่งที่ถูกคิดว่าค่อนข้างจะมองร้ายแรงแล้วก็อันตราย แต่ว่าโดยความเป็นจริงแล้วการศึกษาเล่าเรียนคาราเต้นั้นหัวใจหลักเป็นการใช้ความสงบเงียบของจิตใจ คาราเต้เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่จำต้องอาศัยความพร้อมเพรียงทั้งยังทางจิตใจแล้วก็ร่างกาย ถ้าร่างกายถูกฝึกหัดให้จำได้จิตใจที่สงบก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจและก็จำตามไปด้วย
4. ภายหลังยืดหยุ่นร่างกายเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว มาเริ่มจากท่ารากฐานเป็นท่ายืนโดยมีทั้งสิ้น 3 ท่า
โดยท่ายืนกลุ่มนี้เป็นท่าเบื้องต้นการพัฒนาไปเป็นท่าคาราเต้ท่าอื่น
1. ท่ายืนธรรมชาติ โดยกางเท้าออกห่างจากกันความกว้างราวหัวไหล่ของตัวเองโดยที่ปลายตีนชี้ตรงไปข้างหน้าทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่ปลายตีน
2. ท่าที่สองจนกระทั่งตัวตรงเท้าชิดกัน หลังจากนั้นกางปลายตีนออกกว้างราว 45 องศา
3. ท่าที่สามเหมือนท่าแมว โดยยืนตรงธรรมดาแม้กระนั้นชูส้นขึ้นมาน้อย